จับแล้ว สินค้ามากมายจากแบรนด์ดังล้วนเป็นของปลอมทั้งหมด
เมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญาดีเอสไอ พร้อมกำลังร่วม 20 นาย นำหมายค้นเข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าปลอม ประเภทชุดเครื่องนอน อาทิ ที่นอน ผ้าห่ม หมอน ผ้าปูที่นอน พรม ผ้าม่าน และกระเป๋า ภายในตลาดสามแยก ไนท์มาร์เก็ต ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี และสามารถตรวจยึดสินค้าต่างๆ ยี่ห้อแบรนด์ดังหลายรายการ จำนวนมาก โดยต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดใหญ่ขนของกลางไปไว้ที่ดีเอสไอกว่า 30 เที่ยว มูลค่านับ 10 ล้านบาท พร้อมคุมตัวลูกจ้างผู้ดูแลได้ 1 คน ต่อมา นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯปทุมธานี และ น.ส.รวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
โดย พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญาดีเอสไอ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ติดตามตรวจสอบสินค้าดังกล่าว ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์ดังๆ หลายยี่ห้อ โดยทราบว่านอกจากจะวางจำหน่ายที่หน้าร้านแล้ว ยังจำหน่ายผ่านทางสื่อออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์ อีกด้วย ซึ่งวันนี้จึงระดมกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมทั้งหมด 3 แห่ง คือ ที่ จ.ระยอง 2 แห่ง เป็นโรงงานผลิตและร้านจำหน่าย ส่วนที่ จ.ปทุมธานี 1 แห่ง รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 50 ล้านบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่รู้ตัวเจ้าของสินค้าปลอมทั้งหมดแล้ว เตรียมแจ้งข้อหา “เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้า ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
และเตือนสำหรับ“เทคโนโลยี” มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น มนุษย์มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีวิตที่หลากหลาย ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา ดั่งเช่นสมัยก่อนมนุษย์จะสื่อสารกันผ่านนกพิราบหรือจดหมาย โดยกว่าที่จะสามารถสื่อสารกับใครสักคนได้ ต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีมีความทันสมัยมากขึ้น มีการสร้างคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตขึ้นมา หลังจากนั้นอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ก็ได้เกิดขึ้นตามมา ทำให้มนุษย์สามารถสื่อสารกันด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว
ปัจจุบันประเทศไทยมีคนใช้อินเทอร์เน็ต รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น อย่าง “เฟซบุ๊ก” สื่อสังคมออนไลน์ที่ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ทั่วทุกมุมโลก และสามารถสื่อสารกันได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านทางอินบ็อกหรือช่องแชทของเฟซบุ๊ก โดยล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเฟซบุ๊กก็ได้อัพเดตฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า “เฟซบุ๊กไลฟ์” หรือการถ่ายทอดสดวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยผู้ใช้งานสามารถถ่ายทอดสดวิดีโอขณะนั้นให้เพื่อนดู แทนการโพสต์ภาพหรือวิดีโอ ซึ่งชาวโซเชียลฯ ก็ได้ใช้ช่องทางนี้ในการขายสินค้า
จะเห็นได้ว่ามีสินค้าหลากหลายชนิดที่พ่อค้าแม่ค้าชาวโซเชียลฯ นำมาขาย จนเป็นที่นิยมในกลุ่มชาวโซเชียลฯ ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา ฯลฯ ซึ่งก็มีทั้งของแท้และของก็อปแบรนด์เนมหรือก็คือสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายหากเป็นสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ จะมีโทษตามกฎหมาย และการขายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ก็เช่นเดียวกัน